สหรัฐฯ เตรียมออกมาตรการใหม่เพื่อควบคุมการส่งออกชิป AI ไปยังไทยและมาเลเซีย โดย สหรัฐฯ กังวลว่าไทย และ มาเลเซียอาจกลายเป็น “ทางผ่าน” ให้จีน ในการเข้าถึงชิป AI ที่ถูกห้ามส่งออกโดยตรง , มาตรการใหม่นี้อาจแทนที่กฎเดิมบางส่วน ที่เรียกว่า AI diffusion rule ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเข้มงวดเกินไป.
สหรัฐฯ กำลังเตรียม ร่างข้อบังคับ แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และ อาจมีการเปลี่ยนแปลง , ยังไม่ชัดเจนว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะขยายข้อจำกัดไปยังประเทศอื่น นอกเหนือจากไทย – มาเลเซียหรือไม่ , หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ, บริษัท Nvidia และรัฐบาลไทย-มาเลเซีย ยังไม่ออกแถลงการณ์ใด ๆ.
ประเด็นที่สหรัฐฯเปิด ยังไม่มีคำตอบ ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนเรื่อง ความมั่นคงจากการใช้ชิปสหรัฐฯ ในศูนย์ข้อมูลต่างประเทศ ,โดยเฉพาะใน ภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่ถือว่ามีความเสี่ยงสูงอยู่แล้วก่อตาม.

มาตรการควบคุมการส่งออกชิป AI ของสหรัฐฯ ที่อาจครอบคลุมไทย มีประเด็นน่าจับตาหลายด้าน ซึ่งอาจกระทบไทยในเชิงยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจ ดังนี้:
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ,ไทยกำลังดึงดูดการลงทุนด้านดิจิทัลและศูนย์ข้อมูลจากต่างประเทศ หากมาตรการสหรัฐฯ เข้มงวดขึ้น อาจ ลดทอนความเชื่อมั่น และ ทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงช้าลง , ผู้ให้บริการ Cloud, ศูนย์ข้อมูล และบริษัท AI ในไทยอาจ เข้าถึงชิป AI สหรัฐฯ ได้ยากขึ้น ทำให้ต้นทุนสูงและนวัตกรรมช้าลง.
ความเสี่ยงต่อภาพลักษณ์และความร่วมมือทางการค้า , การถูกจับตามองว่าเป็น “ทางผ่าน” ของจีนอาจ กระทบความไว้เนื้อเชื่อใจจากพันธมิตรตะวันตก อาจทำให้การเจรจาการค้า เช่น ความร่วมมือด้านเทคโนโลยี หรือโครงการเศรษฐกิจดิจิทัล ชะลอตัวหรือถูกทบทวน.
โอกาสในการสร้างมาตรฐาน และ กลไกควบคุมภายใน , ไทยอาจจำเป็นต้องออก กฎหมายหรือมาตรการตรวจสอบภายใน เพื่อแสดงความโปร่งใส เช่น การควบคุมการนำเข้าชิป การกำกับดูแลการส่งออก หากบริหารดี อาจ สร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดการลงทุนจากฝั่งตะวันตก ได้มากกว่าเดิม.
ผลกระทบในมิตินโยบายต่างประเทศ ไทยต้องบริหารสมดุลระหว่างความสัมพันธ์กับจีนกับสหรัฐฯ ไม่ให้เสียอีกฝ่ายหนึ่ง กรณีนี้อาจเป็น บททดสอบท่าทีของรัฐบาลไทยชุดใหม่ ว่าจะมีท่าทีอย่างไรในเวทีภูมิรัฐศาสตร์เทคโนโลยี.
